นักเขียนรับเชิญ Anny Levy แห่ง HUB Islington ลอนดอน ประเทศอังกฤษ:
จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ที่มีคนเดินขึ้นบันไดมาที่ Hub Islington ทำหน้างงๆแล้วสุดท้ายก็เดินมาถามเรื่องสมัครสมาชิก หลังจากเล่าให้เราฟังว่าพวกเขาเบื่อการนั่งทำงานที่บ้านแทบตาย (มีนางหนึ่งบอกว่าเธอเคยนั่งคุยกับกระถางต้นไม้ด้วย!)
แต่คอมมิวนิตี้ที่ coworking space ไม่ได้เกิดขึ้นเองจากอากาศ คุณอาจมีที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน ที่อยากทำความรู้จักและทำงานร่วมกับคนอื่น แต่พอหมดวันก็แยกย้ายกลับบ้าน โดยไม่ได้พูดกันมากไปกว่าแค่ขอยืมที่ชาร์จคอม
เร ชาวอังกฤษไม่ได้ถนัดเรื่องการเข้าไปทำความรู้จักคนอื่นเท่าไหร่ ก่อนจะคุยกับคนแปลกหน้าได้ ต้องคิดบทและมีข้ออ้างในการเริ่มคุยก่อน ถึงจะเป็นแค่เรื่องสัญญาณรถไฟก็เถอะ
ในฐานะผู้จัดการ coworking space การรักษาคอมมิวนิตี้ในที่ทำงานเป็นเรื่องยากอันดับต้นๆของเรา จะทำยังไงให้คนคุยกัน สื่อสารกัน แล้วคอมมิวนิตี้เราจะกระตุ้นให้เกิดคอนเน็คชั่นที่เป็นประโยชน์ ทั้งโอกาสการร่วมงานกับคนอื่น การช่วยเหลือกันและการแชร์ความคิดต่างๆระหว่างกันได้จริงหรือเปล่า
ในขณะที่ coworking spaces หลายแห่งทุ่มมันสมองไปกับการออกแบบให้ space ของตัวเองส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการทำความรู้จักกัน (เช่น โต๊ะกลม, พื้นที่กว้างที่ใช้ร่วมกัน และอื่นๆ) แต่กลับมองข้ามการดูแลคอมมิวนิตี้ภายใน space ให้ตื่นตัวอยู่เสมอ และฉันก็ภูมิใจมากที่การรักษาคอมมิวนิตี้ coworking ให้มีชิวิตชีวาเป็นสิ่งที่ the HUB ทำมาไม่เคยขาด และทำหนังสือแนะแนวสำหรับเจ้าหน้าที่ใน HUB ทั่วโลก ซึ่งจะตีพิมพ์แจกกันเองเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย
หากมีคอมมิวนิตี้ที่ดีก็จะส่งผลดีอีกเยอะแยะ ทั้งทำให้สมาชิกรู้สึกยึดมั่นกับ space (พวกเขาชอบเรียกตัวเองว่าเป็น Hubbers) ไปจนถึงสร้างความเชื่อถือระหว่างกันและกัน ให้สมาชิกไว้ใจกัน อย่างเช่น กล้าทิ้งแล็ปท็อปไว้ ตอนออกไปกินอาหารกลางวัน
แต่ที่สำคัญกว่านั้น คอมมิวนิตี้ที่เหนียวแน่นคือ การเชื่อมโยงระหว่างสมาชิกเกิดขึ้นเอง โดยที่สมาชิก cowork จริงๆ ไม่ใช่แค่นั่งทำงานข้างๆกัน เช่น ร่วมทำธุรกิจกัน, ทำสัญญาข้อตกลงกันภายในคอมมิวนิตี้, แบ่งปันสิ่งที่ตัวเองรู้และประสบการณ์เพื่อช่วยพัฒนาบริษัทและรวบรวมความรู้ ความสามารถจากหลายๆคนเพื่อระดมสมองและร่วมกันวางแผนกลยุทธ์ต่างๆได้
การดูแลคอมมิวนิตี้อาจมีตั้งแต่ จัดงานอีเว้นท์ทั้งหลายเพื่อให้สมาชิกได้ทำความรู้จัก เชื่อมโยงกัน นำเสนอโปรเจกต์ของตัวเอง จนถึงการสนับสนุนให้คนคอมมิวนิตี้ใกล้กันมากขึ้น ทั้งการกินอาหารกลางวันร่วมกันหรือจิบไวน์หลังเลิกงานด้วยกัน
ในหนังสือแนวทางการดูแลคอมมิวนิตี้ เราแบ่งประสบการณ์ที่สมาชิกจะได้เจอเป็น 2 แบบ คือ แบบ ’ทั่วไป’ กับ ‘เกินคาด’ ประสบการณ์แบบทั่วไปคือสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้วก็คือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย, โต๊ะและโอกาสทำความรู้จักกับ coworkers คนอื่นๆ
ส่วนประสบการณ์แบบ ‘เกินคาด’ คือสิ่งที่เดาไม่ได้ว่าจะเกิดหรือไม่ แต่มันจะทำให้การมาทำงานที่นี่มีค่ามากขึ้นอีกเยอะ โดยผ่านทาง ‘กิจกรรมทั้งอีเว้นท์ การอบรมให้ความรู้และ ที่ผู้ดูแล space จัดขึ้นเพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจ เชื่อมโยงและสนับสนุนสมาชิก’ พูดอีกอย่างก็คือสิ่งที่จะทำให้พวกเขามีประสบการณ์เข้มข้นและช่วยธุรกิจให้ ก้าวหน้า
ผู้ดูแลก็เป็นเหมือนผู้ช่วยและแรงกระตุ้นให้สมาชิกได้ทำความรู้จักและเชื่อมโยงกัน เราต้อนรับสมาชิกเข้าสู่คอมมิวนิตี้และกระตือรือร้นช่วยให้เชื่อมโยงกับคน อื่นๆด้วย การดูแลคอมมิวนิตี้ยังรวมไปถึงการสร้างออนไลน์ คอมมิวนิตี้และภายในที่ทำงานจริงๆด้วยเช่นกัน
เราเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับสมาชิกของเราทั่วโลก ชื่อ HUBNet ซึ่งต้องตั้งใจดูแลคอมมิวนิตี้ในนั้นตลอดเพื่อดึงดูดสมาชิกให้เข้าเว็บไซต์ และใช้ประโยชน์จากเว็บให้มากที่สุด โดยมีการต้อนรับสมาชิกบนเว็บ, เชื่อมเข้าหาสมาชิกคนอื่นและแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้ดูแล coworking space ต้องเป็นเหมือนผู้ดูแลสถานที่พบปะทางสังคมทั่วไปคือ ดูแลต้อนรับและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร สนุกและพร้อมช่วยเหลือ เราทำ coworking space ของเราให้เป็นที่ที่สมาชิกอยากมา เป็นที่ที่ “ทุกคนรู้จักคุณ”
ทุกพฤหัสที่ HUB Islington จะกินอาหารกลางวันมื้อใหญ่ด้วยกัน และกลายเป็นว่าทุกคนเรียกมื้อนี้ว่า “เซ็กซี่สลัด” ซึ่งเป็นมื้อที่คึกคักเป็นพิเศษ โดยจะเริ่มเข้าครัวกันตอนเที่ยงครึ่ง พร้อมเครื่องปรุงสลัดเต็มไปหมด ทั้งขนมปัง ชีสและเมนูต่างๆ ที่แต่ละคนเอามาเองจากบ้าน กลายเป็นมื้อใหญ่ที่ทุกคนมากินด้วยกันในห้องประชุม
ครัวที่นี่เป็นที่ รวมกิจกรรมมากมาย ทั้งสลับอาหาร แบ่งเครื่องปรุงและตะโกนคุยกัน เราจะมีบรรยากาศปาร์ตี้คึกคักแบบนี้ทุกอาทิตย์ ไม่ใช่แค่สนุกแต่ยังมันเป็นโอกาสดีที่สมาชิกจะได้รู้จักกัน ทักทายและเป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตี้ได้แบบไม่ต้องเกร็งหรือพยายามจนเกินไป
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นกับการให้เจ้าของกิจการมาอยู่รวมกันแล้วอยู่ดีดีพวก เขาจะเจรจาธุรกิจกันขึ้นมาเอง ฉันเองเคยเห็นหลายคนได้รู้จักกันและปิ๊งไอเดียทางธุรกิจระหว่าง ’เซ็กซี่สลัด’ หลายครั้ง หลายครั้งที่สมาชิกหลายคนก็ถือโอกาสปรึกษาปัญหาระหว่างล้างจานไปด้วย
ที่ดีที่สุดจะต้องมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้สมาชิกพัฒนาธุรกิจของตนเองได้ดี กว่านั่งทำงานที่บ้าน และที่สำคัญ คุณจะได้รู้จักกับคนอื่นๆแทนที่จะนั่งคุยกับกระถางคนเดียว!
ต้องมีครัว - ครัวของเราที่ The HUB เป็นที่ที่รวมตัวของสมาชิก และฉันเองก็จะเข้าไปคุยกับสมาชิกคนอื่นๆระหว่างที่พวกเขากำลังชงกาแฟหรือ เตรียมอาหารเช้า
จัดงานอีเว้นท์ภายในกันเอง - ลองกำหมดธีมสำหรับมื้อกลางวัน (หรือปาร์ตี้) คนเราจะเป็นกันเองและกล้าทำความรู้จักคนอื่นมากขึ้นเวลามีอาหาร (และเครื่องดื่ม) ช่วยสร้างบรรยากาศ
สร้างแรงบันดาลใจ - ผ่านทางงานอีเว้นท์หรือการบรรยายที่เป็นประโยชน์กับสมาชิก โดยให้ความรู้และสมาชิกคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
จัดงานให้สมาชิกทำความรู้จักกัน - coworking space บางแห่งมีการเล่นบั้ดดี้ โดยจับคู่สมาชิกเดิมเพื่อแนะนำให้สมาชิกหน้าใหม่รู้จักคอมมิวนิตี้ที่นั่นมากขึ้น
ต้องมีสิ่งดึงดูดให้คนเข้ามาในคอมมิวนิตี้ของคุณ! - ที่ The HUB เราเน้นการทำความรู้จักและเชื่อมโยงระหว่างสมาชิก ซึ่งทำให้สมาชิกกระตือรือร้นร่วมกิจกรรมกับคอมมิวนิตี้ ด้วยความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตี้ที่พัฒนาอยู่เสมอ
:::
Anna Levy รับผิดชอบดูแล HUB Islington ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ของ space 300 แห่งทั่วโลกและสมาชิกกว่า 4,000 คน HUBs มี space สำหรับเจ้าของกิจการที่เกี่ยวกับการพัฒนาสังคมให้ทำงาน ทำความรู้จักกัน ทำงานด้วยกันเพื่อพัฒนาโลกเราให้ดีกว่าเดิม